การ รับผลิต Packaging ครบวงจร

การรับผลิต Packaging

รับผลิต Packaging ครบวงจร

การ รับผลิต Packaging ที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ packaging ไม่ได้เป็นแค่บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการบรรจุสินค้าของท่านเพียงอย่างเดียวแต่มันยังหมายถึง การสร้างตัวตนของแบรนด์ ความน่าดึงดูด การใช้งานที่สะดวก และอาจจะเป็นได้ถึงความสำเร็จของแบรนด์เลยทีเดียวดังนั้น วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำว่าเพราะอะไรการสร้างแพ็คเกจจิ้งจึงสำคัญ

เหตุผลที่ Packaging สำคัญต่อแบรนด์

เพราะ Packaging นั้นไม่ได้เป็นแค่การบรรจุสินค้าลงไปเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายของสินค้าเท่านั้นแต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์อื่น ๆ ด้วยแต่จะเป็นอะไรกันบ้างเราลองมาดูกัน

  1. สร้างความประทับใจในครั้งแรกที่พบเห็น  บรรจุภัณฑ์เป็นโอกาสแรกที่คุณจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า การออกแบบที่สวยงาม น่าสนใจ และสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ จะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับลูกค้า
  2. สื่อสารเอกลักษณ์ของแบรนด์  บรรจุภัณฑ์ก็เป็นเหมือนสื่อกลางที่ช่วยสื่อสารเอกลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์ คุณไปยังลูกค้าโดย ผ่านการใช้สี โลโก้ รูปแบบ และข้อความที่สอดคล้องกัน
  3. สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง  โดยใช้เวลาผลิตนานกว่าแพคเกจจิ้งที่มีปริมาณการผลิตจำนวนน้อย
  4. เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์  เนื่องจากโรงงานผลิตอาจมีคิวงานอยู่จำนวนมากในช่วงเทศกาล หรือช่วงที่มีความต้องการสูง
  5. ปกป้องผลิตภัณฑ์  บรรจุภัณฑ์มีหน้าที่หลัก คือการปกป้องผลิตภัณฑ์ของคุณให้ปลอดภัยจากการเกิดความเสียหายระหว่างการขนส่งและการจัดเก็บ
  6. ส่งเสริมการขาย  บรรจุภัณฑ์นั้นสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการขายได้ เช่น การ  ออกแบบให้มีส่วนร่วมต่าง ๆ ตามงานเทศกาลโอกาสสำคัญ หรือการใส่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ

การลงทุนใน Packaging ที่ดี จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างเเน่นอน เพราะมันจะช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาวได้เลยทีเดียว

การ รับผลิต Packaging ที่ครบวงจรนั้นดีอย่างไร ?

Packaging ที่ดี คือ บรรจุภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชันและด้านการตลาดได้อย่างลงตัว โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้

   ด้านฟังก์ชั่น

  • ปกป้องสินค้า  จากความเสียหาย เช่น การกระแทก ความชื้น แสงแดด หรือการปนเปื้อน เพื่อให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคในสภาพที่สมบูรณ์
  • สะดวกในการใช้งาน  ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เปิด-ปิดสะดวก พกพา และจัดเก็บได้ง่าย
  • รักษาคุณภาพสินค้า  สำหรับสินค้าบางประเภท เช่น อาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว บรรจุภัณฑ์จะต้องช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าให้คงอยู่ได้นาน
  • เหมาะสมกับชนิดของสินค้า  การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีวัสดุและรูปแบบที่เหมาะสมกับชนิดของสินค้า เช่น สินค้าของเหลว สินค้าแข็ง หรือสินค้าที่บอบบาง
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ควรจะทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

   ด้านการตลาด

  • ดึงดูดความสนใจ  ต้องมีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัยน่าสนใจ และโดดเด่น เพื่อดึงดูดสายตาของผู้บริโภค
  • สื่อสารเอกลักษณ์ของแบรนด์  บรรจุภัณฑ์ต้องสะท้อนถึงภาพลักษณ์ และเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างความแตกต่าง และการจดจำได้
  • สร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภค  บรรจุภัณฑ์ควรออกแบบให้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด เช่น การใช้สีสันที่สื่อถึงความรู้สึก หรือการเลือกใช้วัสดุที่สื่อถึงความหรูหรา
  • กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ  ต้องสามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันที
  • สร้างความประทับใจ  บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคอยากซื้อซ้ำอีกเรื่อยๆ

   และนี้จะเป็นตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ที่ดี

  • บรรจุภัณฑ์อาหาร : เน้นความสะอาด ปลอดภัย และสื่อถึงความสดใหม่ของอาหาร
  • บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง : เน้นความหรูหรา สวยงาม และสื่อถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์
  • บรรจุภัณฑ์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ : เน้นความแข็งแรง ทนทาน และสื่อถึงความทันสมัยของเทคโนโลยี

Packaging ที่ไม่ดีส่งผลเสียมากกว่าที่คุณคิด

Packaging ที่ไม่ดี จะส่งผลกระทบทั้งในส่วนของผู้ผลิตเเละผู้บรโภค ดังนั้นเราเราจะมาดูกันว่ามันส่งผลเสียขนาดไหน เเละอย่างไรบ้าง

   ผลกระทบต่อผู้ผลิต

  • เสียชื่อเสียง  บรรจุภัณฑ์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือหรือมีคุณภาพต่ำเกินไป อาจทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจในผลิตภัณฑ์ และส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ในระยะยาว
  • สูญเสียลูกค้า  หากบรรจุภัณฑ์ไม่สามารถป้องกันสินค้าได้ อาจทำให้สินค้าเสียหายระหว่างการขนส่ง ซึ่งจะนำไปสู่การคืนสินค้า ลามจนไปถึงการสูญเสียลูกค้ารายนั้นไปได้
  • ต้นทุนเพิ่มขึ้น  บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาในการขนส่งและการจัดเก็บ ซึ่งจะต้องเพิ่มต้นทุนในการดำเนินงานของธุรกิจ
  • แข่งขันได้ยาก  ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง บรรจุภัณฑ์ที่มีดีไซน์และคุณภาพที่ด้อยกว่า อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณดูไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ผลกระทบต่อผู้บริโภค

  • ความไม่มั่นใจในผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือ อาจทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายใน
  • ความไม่สะดวกในการใช้งาน บรรจุภัณฑ์ที่เปิด-ปิดยาก หรือมีขนาดที่ไม่เหมาะสม อาจจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่สะดวกในการใช้งาน
  • ความเสี่ยงต่อสุขภาพ บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุที่ไม่ปลอดภัย หรือมีการปนเปื้อนของสารเคมี อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
  • เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ หากผลิตภัณฑ์เสียหายเนื่องจากบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ดี ผู้บริโภคจะต้องสูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

 

ตัวอย่างของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ดี

  • บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางที่แตกหักง่าย : ทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย
  • บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกที่ย่อยสลายยาก : สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม

Packaging เเบบไหนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

Packaging ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันนั้น มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตาม     เทรนด์ และความต้องการของผู้บริโภคในเเต่ละช่วงเวลานั่นเอง

 

บรรจุภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน มีลักษณะเด่นดังนี้

  • บรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงามสร้างกระเเส  การสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่จะปกป้องผลิตภัณฑ์ แต่ยังสามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากถ่ายรูปและแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้นั้น เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์แล้ว ยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอีกด้วย
  • บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล วัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย กลายเป็นที่นิยมไปด้วย
  • บรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการใช้งาน  ผู้บริโภคต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เปิด-ปิดง่าย พกพาสะดวก และสามารถจัดเก็บได้ง่ายเพื่อความคล่องตัวในการใช้ของคนในยุคสมัยปัจจุบัน

รูปทรงกล่องต่างๆ

รูปทรงกล่องมาตรฐานที่พบเห็นได้ทั่วไป

  • กล่องสี่เหลี่ยม เป็นรูปทรงที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด เพราะง่ายต่อการผลิตและจัดเก็บ
  • กล่องทรงกระบอก  เหมาะสำหรับสินค้าที่มีรูปทรงกลม เช่น ปากกา เครื่องสำอางบางชนิด และ ขนมขบเคี้ยวบางตัว
  • กล่องทรงสามเหลี่ยม  มักใช้สำหรับสินค้าที่ต้องการความโดดเด่นและแตกต่าง
  • กล่องทรงไข่  เหมาะสำหรับสินค้าที่มีรูปทรงโค้งมน เช่น ขนมเค้ก หรือสบู่

รูปทรงกล่องที่ออกแบบมาให้มีความแปลกใหม่

  • กล่องรูปทรงเรขาคณิต เช่น ทรงลูกบาศก์ ทรงกลม ทรงกระบอก หรือทรงหลายเหลี่ยม
  • กล่องรูปทรงธรรมชาติ เช่น ทรงใบไม้ ทรงผลไม้ หรือทรงสัตว์
  • กล่องรูปทรงที่สื่อถึงสินค้า เช่น กล่องรองเท้าที่ทำเป็นรูปเท้า กล่องเครื่องสำอางที่ทำเป็นรูปกระจก
  • กล่องรูปทรงที่สร้างสรรค์ เช่น กล่องที่สามารถประกอบเป็นรูปทรงอื่นได้ กล่องที่เปิดได้หลายรูปแบบ

สไตล์ของ Packaging

สไตล์ของ Packaging นั้นมีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละสไตล์ก็จะสื่อถึงภาพลักษณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันไป การเลือกสไตล์ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของคุณ จะช่วยให้บรรจุภัณฑ์ของคุณโดดเด่น และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

สไตล์ Packaging ที่นิยม

  • สไตล์มินิมอล (Minimalist) : เน้นความเรียบง่าย ใช้สีสันน้อย สีขาว สีดำ หรือสีพาสเทลเป็นหลัก โฟกัสที่ตัวผลิตภัณฑ์ และข้อความสำคัญ ๆ เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสื่อถึงความเรียบ และทันสมัย
  • สไตล์วินเทจ (Vintage) : สไตล์คลาสสิกที่เน้นการนำเอาองค์ประกอบต่าง ๆ ในอดีตมาใช้ เช่น แบบอักษรเก่า รูปภาพลายเส้น หรือสีโทนอบอุ่น เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นเอกลักษณ์
  • สไตล์เรโทร (Retro) : คล้ายกับสไตล์วินเทจ แต่เน้นความสดใสและมีสีสันมากกว่า มักใช้สีสันที่ฉูดฉาด และแบบอักษรที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสร้างความสนุกสนาน และเป็นมิตร
  • สไตล์ลักชัวรี่ (Luxury) : เน้นความหรูหรา ใช้สีทอง สีเงิน หรือสีดำเป็นหลัก วัสดุที่ใช้จะเป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น กระดาษอาร์ตการ์ดเคลือบเงา เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม
  • สไตล์ธรรมชาติ (Natural) : ใช้สีสันที่ได้จากธรรมชาติ เช่น สีเขียว สีน้ำตาล สีครีม และวัสดุที่ทำจากธรรมชาติ เช่น  กระดาษรีไซเคิล เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • สไตล์โมเดิร์น (Modern) : เน้นความทันสมัย ใช้เส้นสายที่เรียบง่าย สีสันที่ตัดกัน และแบบอักษรที่ดูทันสมัย เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสื่อถึงความเป็นนวัตกรรม และความทันสมัย

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกสไตล์ Packaging

  • กลุ่มเป้าหมาย : สไตล์ของบรรจุภัณฑ์ควรสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
  • เอกลักษณ์ของแบรนด์ : บรรจุภัณฑ์ควรสื่อถึงเอกลักษณ์ และภาพลักษณ์ของแบรนด์
  • ประเภทของผลิตภัณฑ์ : สไตล์ของบรรจุภัณฑ์ควรเหมาะสมกับประเภทของผลิตภัณฑ์
  • แนวโน้มของตลาด : ควรติดตามเทรนด์ของตลาดบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ของคุณมีความทันสมัย

เทคนิคการเลือกสไตล์ Packaging ที่เหมาะสม

  • วิเคราะห์คู่แข่ง : ศึกษาบรรจุภัณฑ์ของคู่แข่ง เพื่อหาจุดเด่น และจุดด้อย
  • สร้าง Mood Board : รวบรวมภาพบรรจุภัณฑ์ที่คุณชอบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : ขอคำแนะนำจากโรงงาน รับผลิต packaging ครบวงจร

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ 

  • วัสดุที่ใช้ : ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และสไตล์ที่ต้องการ
  • สีสัน : สีสันมีผลต่ออารมณ์ และความรู้สึกของผู้บริโภค
  • แบบอักษร : แบบอักษรควรสื่อถึงความรู้สึก และภาพลักษณ์ของแบรนด์
  • กราฟิก : กราฟิกที่ใช้ควรมีความหมาย และสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน

สรุป จะเห็นได้ว่า Packaging มีความสำคัญอย่างมากในทุก ๆ ด้านเลยก็ว่าได้ Packaging ที่ดีคือบรรจุภัณฑ์ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่สามารถปกป้องผลิตภัณฑ์ สร้างความน่าสนใจ สะดวกต่อการใช้งาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสื่อถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน นั่นเอง การเลือกรับผลิต Packaging ให้ออกมาดี จะมีองค์ประกอบหลายส่วนเลยทีเดียว หากคุณต้องการให้ครบจบในที่เดียว boxhouse รับผลิต packaging ครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เเน่นอน !!

 

หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การผลิตกล่องกระดาษ สามารถสอบถามได้เลย BOXHOUSE ยินดีให้บริการช่องทางติดต่อข่าวสารตามด้านล่างนี้เลย

หัวข้อบทความอื่น ๆ ที่ท่านอาจจะสนใจ

แชร์บทความ :

บทความที่เกี่ยวข้อง